วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เทคโนโลยี กับการพัฒนา

       เทคโนโลยี หมายถึง สิ่งที่มนุษย์พัฒนาขึ้น เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์, เครื่องมือ, เครื่องจักร, วัสดุ หรือ แม้กระทั่งที่ไม่ได้เป็นสิ่งของที่จับต้องได้ เช่น กระบวนการต่าง ๆ


       เทคโนโลยี เป็นการประยุกต์ นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ และก่อให้เกิดประโยชน์ ในทางปฏิบัติ แก่มวลมนุษย์กล่าวคือเทคโนโลยีเป็นการนำเอาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนที่เป็นข้อแตกต่างอย่างหนึ่งของเทคโนโลยี กับวิทยาศาสตร์ คือเทคโนโลยีจะขึ้นอยู่กับปัจจัย ทางเศรษฐกิจเป็นสินค้ามีการซื้อขาย ส่วนความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เป็นสมบัติส่วนรวมของ ชาวโลกมีการเผยแพร่โดยไม่มีการซื้อขายแต่อย่างใดกล่าวโดยสรุปคือ เทคโนโลยีสมัยใหม่เกิดขึ้นโดยมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นฐานรองรับ

ตัวอย่างเทคโนโลยี สู่อนาคต



ที่มี : http://www.oknation.net/blog/kang1989/2008/06/30/entry-3

STEM ศึกษา

STEM คืออะไร ?

       คำว่า “สะเต็ม” หรือ “STEM” เป็นคำย่อจากภาษาอังกฤษของศาสตร์ 4 สาขาวิชา ได้แก่ 
           วิทยาศาสตร์ (Science) 
           เทคโนโลยี (Technology)  
           วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และ
           คณิตศาสตร์ (Mathematics)  
       หมายถึงองค์ความรู้ วิชาการของศาสตร์ทั้งสี่ที่มีความเชื่อมโยงกันในโลกของความเป็นจริงที่ต้อง อาศัยองค์ความรู้ต่างๆ มาบูรณาการเข้าด้วยกันในการดำเนินชีวิตและการทำงาน คำว่า STEM ถูกใช้

       สะเต็มศึกษา คือ แนวทางการจัดการศึกษาที่บูรณาการความรู้ใน 4 สหวิทยาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม เทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ โดยเน้นการนำความรู้ไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตจริง รวมทั้งการพัฒนากระบวนการหรือผลผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต และการทำงาน ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่าง 4 สหวิทยาการ กับชีวิตจริงและการทำงาน  การจัดการเรียนรู้แบบสะเต็มศึกษาเป็นการจัดการเรียนรู้ที่ไม่เน้นเพียงการ ท่องจำทฤษฎีหรือกฏทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ แต่เป็นการสร้างความเข้าใจทฤษฎีหรือกฏเหล่านั้นผ่านการปฏิบัติให้เห็นจริง ควบคู่กับการพัฒนาทักษะการคิด  ตั้งคำถาม  แก้ปัญหาและการหาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อค้นพบใหม่ๆ พร้อมทั้งสามารถนำข้อค้นพบนั้นไปใช้หรือบูรณาการกับชีวิตประจำวันได้
 
       การจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มมีลักษณะ  5  ประการได้แก่ 
(1) เป็นการสอนที่เน้นการบูรณาการ 
(2) ช่วยนักเรียนสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเนื้อหาวิชาทั้ง 4 กับชีวิตประจำวันและการทำอาชีพ  
(3) เน้นการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21  
(4) ท้าทายความคิดของนักเรียน  และ 
(5) เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น และความเข้าใจที่สอดคล้องกับเนื้อหาทั้ง 4 วิชา 

       จุดประสงค์ของการจัดการเรียนรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา คือ ส่งเสริมให้ผู้เรียนรักและเห็นคุณค่าของการเรียนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์  และเห็นว่าวิชาเหล่านั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวที่สามารถนำมาใช้ได้ทุกวัน


ที่มา : http://www.stemedthailand.org/?page_id=23

10 ข้อคิด ที่ได้จากการเดินทาง

       ในการเดินทางไม่ว่าจะไปในที่แห่งหนใด ในทุกๆ ที่ก็แฝงไว้ด้วยข้อคิดดีๆ ให้เราได้ไปค้นหา อยู่ที่ว่าเราจะพบเจอหรือไม่

1. แม้จะลงทุน ลงแรง ไปในสถานที่ที่ไปยากลำบาก และไกลแค่ไหน ก็ไม่ได้การันตีว่าปลายทางจะต้องคุ้มค่าเสมอไป  แต่สิ่งที่แน่นอนคือ ประสบการณ์ระหว่างทางที่เดินทางไปนั้น คุ้มค่าเสมอ

2. ขนาดของเมืองไม่ได้วัดขนาดความสุข บ่อยครั้งที่เราพบว่า เมืองขนาดเล็กกลับมีปริมาณความสุขมากล้นกว่าเมืองใหญ่หลายเท่า

3. ถ้าเราต้องการเจอบางอย่างที่ไม่เคยเจอ เราก็ต้องลองทำบางอย่างที่ไม่เคยทำ

4. นักเดินทางที่ดีไม่ใช่คนที่รู้ไปหมดเสียทุกเรื่อง แต่เป็นคนที่ชอบที่จะเรียนรู้ทุกเรื่องที่พบเจอ

5. ระหว่างเดินทางคนเดียว เราจะได้พบว่าแท้จริงแล้วเราไม่ได้เดินทางลำพังหรอก เพราะผู้คนมากมายที่พบระหว่างทางล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางทั้งนั้น

6. บางครั้งเราก็ต้องหยุดให้สมองสั่งการขา แล้วใช้หัวใจลองสั่งแทนดูบ้าง

7. เราจ่ายเงินเพื่อซื้อการเดินทาง. และได้เงินทอนเป็นประสบการณ์ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะได้ทอนมาเกิน

8. ถ้าจำกัดมุมมองการใช้ชีวิตตีกรอบด้วยคำว่า เป็นไปไม่ได้เราจะพลาดการทดลองทำสิ่งใหม่ๆที่อาจนำให้เราพบเรื่องดีดีอีกมากมายที่ซ่อนอยู่

9. หลังจากเดินทางไปได้ซักระยะหนึ่ง. เมืองที่นักเดินทางทุกคนอยากไปที่สุดคือเมืองที่เป็นบ้านของตัวเอง

10. ส่วนใหญ่คนเราจะเห็นค่าของสิ่งต่างๆเมื่อขาดหายไป   แต่สำหรับแรงบันดาลใจ เราจะเห็นค่าที่สุดเมื่อเรามีอยู่กับตัว

ข้อคิดดีๆ จาก: https://travelkanuman.com/travel/10-ข้อคิดเปลี่ยนชีวิตที่/

วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559